รีวิว A Working Man(2025)

รีวิวหนังใหม่ A Working Man ดัดแปลงจากนิยายแอ็กชันของ ชัก ดิกสัน นักเขียนการ์ตูนชื่อดังที่มีผลงานทั้งฝั่ง DC Comics และ Marvel Comics โดยเล่าเรื่องราวของ เลวอน เคด ( นำแสดงโดย เจสัน สเตแธม) อดีตนายทหารที่หันหลังให้กับการรับใช้ชาติไปเป็นคนงานก่อสร้างและใช้ชีวิตสงบสุขกับครอบครัว แต่เมื่อเกิดเหตุลูกสาวของเจ้านายผู้มอบชีวิตใหม่ให้เขาได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย เลวอนถูกขอให้หวนคืนสู่วงการเสี่ยงตายอีกครั้ง อดีตนาวิกโยธินออกลุยเดี่ยวตามหาและไล่ล่าไปจนถึงขบวนการค้ามนุษย์ระดับชาติที่ลักพาตัวคนบริสุทธิ์มากมายเข้าสู่วงจรธุรกิจนรก เลวอนจึงต้องงัดทุกสกิลสู้ระห่ำเพื่อช่วยชีวิตหญิงสาวให้ปลอดภัย และทำลายขบวนการนรกสุดระยำนี้ให้สิ้นซาก งานนี้เดือดจัดเพราะแท็กทีมสามตัวพ่อแห่งวงการหนังแอ็กชัน นำแสดงโดยแอ็กชันสตาร์ขวัญใจคนไทย “เจสัน สเตแธม” (The Meg, Fast & Furious Presents: Hobbs & Shaw) และกำกับโดยสายโหด “เดวิด เอเยอร์” (Fury, Suicide Squad) รวมทั้งยังได้สุดยอดนักบู๊แรมโบ้ในตำนาน “ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน” (Rambo, The Expendables) ที่เคยเข้าชิงรางวัลออสการ์ สาขาบทภาพยนตร์ดั้งเดิมจากเรื่อง “Rocky” (1976) มาร่วมเขียนบทและโปรดิวซ์ให้อีกด้วย จากการรวมตัวกันครั้งนี้สื่อต่างประเทศจึงคาดการณ์ว่า “A Working Man” จะประสบความสำเร็จตามรอย “The Beekeeper” ได้ไม่ยากด้วยเนื้อเรื่องและฉากแอ็กชันที่อัปดีกรีความโหด ดิบ เดือดยิ่งกว่าเดิม!

รีวิว Snow White สโนว์ไวท์ (2025)

ภาพยนตร์ไลฟ์แอคชั่นที่ดัดแปลงมาจากแอนิเมชั่นในปี 1937 ของดิสนีย์ ในชื่อ “สโนวไวท์และคนแคระทั้งเจ็ด”   เป็นอีกหนึ่งเจ้าหญิงดิสนีย์ที่กำลังจะมาโลดแล่นอีกครั้งในโลกแผ่นฟิล์มฉบับคนแสดง สำหรับ Snow White ที่ล่าสุด Disney นำกลับมาสร้างใหม่ในหนังไลฟ์แอ็คชั่น (Live-Action) ให้แฟน ๆ ได้ติดตามกันอีกครั้ง หลังจากที่ได้แจ้งเกิดเจ้าหญิงหลายต่อหลายคนกันมาก่อนหน้านี้แล้ว โดยทีเซอร์แรกของ Disney’s Snow White สโนว์ไวท์ ฉบับรีเมก ได้ถูกปล่อยที่งาน Disney D23 ซึ่งเราจะได้เห็นการแสดงของ กัล กาดอท (Gal Gadot) ในบทบาทของราชินีชั่วร้าย (Evil Queen) และ ราเชล เซกเลอร์ (Rachel Zegler) ในบท สโนว์ไวท์ เป็นครั้งแรก เรื่องย่อ : เรื่องราวของ สโนว์ไวท์ เจ้าหญิงที่มีจิตใจงดงามและรูปลักษณ์งามสง่าเป็นที่รักของสรรพสิ่งทุกประเภททั้งคนและสัตว์ในอาณาจักร ยกเว้น ราชินี แม่เลี้ยงที่อิจฉาเธอตลอดมา เมื่อกระจกวิเศษยืนยันว่าสโนว์ไวท์คือหญิงที่งามที่สุดในปฐพี แต่แล้วโชคชะตาทำให้เธอต้องหนีเข้าไปในป่าลึกซึ่งเป็นที่ที่เธอจะได้เป็นเพื่อนกับคนแคระทั้ง 7 ด็อก, แฮปปี้,

รีวิว Squad 36 หน่วย 36 ตำรวจมือพระกาฬ

ภาพยนตร์อาชญากรรมระทึกขวัญที่จะพาไปดำดิ่งกับความลึกลับปริศนาของทีมเจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยสืบสวนที่แตกเป็นเสี่ยง ๆ ก่อนจะเริ่มหายตัวและถูกฆ่าปิดปากไปทีละคน นี่คือหนังที่หยิบเอานิยายอาชญากรรมเล่มดังมาละเลงสร้างเป็นหนังจอใหญ่ เรื่องราวของอองตวน แซร์ดา ตำรวจหนุ่มยอดฝีมือประจำหน่วยสืบสวนสอบสวนได้รับคำสั่งย้ายไปอยู่หน่วยต่อต้านอาชญากรรม เนื่องจากพฤติกรรมและละเมิดกฎทางวินัยอย่างมิชอบ ทำให้เขาเก็บตัวเงียบหายไป 6 เดือนไม่ติดต่อและไม่รับรู้ใด ๆ กระทั่งเขาต้องกลับมาเคลื่อนไหวอีกครั้ง หลังพบว่าอดีตเพื่อนร่วมทีม 2 คนถูกสังหารในรอบ 24 ชั่วโมง และอีกคนก็หายตัวไปลึกลับ เขาจึงพยายามสืบเสาะหาข้อเท็จจริงในประเด็นลึกลับครั้งนี้ ที่ได้นำพาเขาไปสู่จุดที่เลวร้ายและตกต่ำที่สุดในอาชีพผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ หนังเรื่องนี้เป็นฝีมือล่าสุดของผู้กำกับและนักแสดงชื่อดังของฝรั่งเศส “โอลิเวอร์ มาร์ชาล” ที่ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในนักสร้างหนังที่มักจะโดดเด่นจัดจ้านการงานหยิบเอาวงการสีกากีมาสร้างเป็นหนัง เนื่องจากเขาก็คือตำรวจเก่า และนี่ก็น่าจะเป็นการหวนคืนฟอร์มของเขาอีกครั้งในรอบ 20 ปี หลังจากที่เคยแจ้งเกิดมาจากหนังแนวเดียวกัน อย่าง “36th Precinct” เมื่อปี 2004 ที่ทำให้เขาได้เข้าชิงรางวัลซีซาร์ อวอร์ดส์ หรือ ออสการ์ของฝรั่งเศส โอลิเวอร์ มาร์ชาล ยังรับหน้าที่ดัดแปลงเขียนบทหนังเรื่องนี้ด้วยตัวของเขาเอง โดยหยิบเอานิยายสืบสวนเล่มดังของ “มิเกล ตูร์เชอร์” มาปั้นเรื่อง ด้วยลีลาการสร้างสรรค์ของเขาอาจจะไม่ได้ทำให้เกิดความแปลกใหม่เท่าไหร่ในงานชิ้นนี้ จังหวะและลีลาในหนังเหมือนจะซับซ้อนและชวนติดตาม แต่ก็ยังมีหลาย ๆ จุดที่ขาดเกินอยู่ Squad 36 อาจจะมีเนื้อหาสืบสวนที่เข้มข้น แต่การเล่าเรื่องยังค่อนข้างหละหลวมและไม่ชวนติดตามได้อยู่หมัด

รีวิว Bridget Jones: Mad About the Boy (บริดเจ็ท โจนส์ : หลงหนุ่มหนักมาก)

แฟนๆ หนังรอมคอมเห็นแล้วต้องดีใจ เพราะ Bridget Jones: Mad About the Boy (บริดเจ็ท โจนส์ : หลงหนุ่มหนักมาก) กลับมาแล้ว! หลังจากที่หายไปนานเกือบเก้าปี กลับมาครั้งนี้ถือเป็นภาคสุดท้ายของหนังรักโรแมนติกที่หลายคนรอคอย โดยภาคนี้ “บริดเจต โจนส์” ที่ตอนนี้อยู่ในวัยห้าสิบต้นๆ ต้องเผชิญความท้าทายใหม่ในชีวิต นั่นก็คือการรับมือกับหน้าที่ความเป็นแม่ ท่ามกลางโลกยุคใหม่ที่เธอต้องพยายามตามให้ทัน โดยยังคงได้ตัวนักแสดงดั้งเดิมอย่าง “เรเน่ เซลวีเกอร์”, “ฮิวจ์ แกรนท์” และ “เอ็มมา ธอมป์สัน” กลับมารับบทเดิมอีกครั้ง พร้อมนักแสดงใหม่ที่ยังหนุ่มยังแน่น ชวนให้หัวใจของแม่บริดเจตหวั่นไหวอีกด้วย บทสรุปของเรื่องราวหวานซึ้งปนฮาจะเป็นยังไง รอดู รีวิวหนังใหม่ ในภาพรวมแล้ว Bridget Jones: Mad About the Boy อาจจะไม่ใช่หนังที่สมบูรณ์แบบอะไร เพราะความอมตะจริง ๆ ของหนังเรื่องนี้ได้สมบูรณ์แล้วในภาคแรก ส่วนภาคอื่น ๆ เป็นแค่เพียงส่วนต่อขยายชีวิตของผู้หฺญิงที่ชื่อบริดเจ็ทผู้นี้เท่านั้น โดยในภาคนี้น่าจะเป็นการเดินทางที่เต็มไปด้วยสีสันทิ้งทวนเป็นครั้งสุดท้ายของเธอแล้ว ความผูกพันและความคิดถึงจึงอบอวลไปทั่วทั้งเรื่อง หนังอาจจะไม่มีอะไรใหม่ มีจุดที่ยืดยานไปบ้าง แต่การได้เห็นทัพนักแสดงชุดใหญ่กลับมาอีกครั้งก็คือกำไรแล้ว

Captain America: Brave New World (กัปตัน อเมริกา: ศึกฮีโร่จักรวาลใหม่)

ได้เวลาไปพบกัปตันคนใหม่และภารกิจครั้งใหม่ที่ดุเดือดกว่าเดิม พร้อมการปรากฏตัวของ Red Hulk คู่ต่อสู้ที่ไม่ธรรมดาใน Captain America: Brave New World หรือ กัปตัน อเมริกา: ศึกฮีโร่จักรวาลใหม่ หนังมหากาพย์แห่งจักรวาลมาร์เวลได้เริ่มต้นอีกครั้ง โดยกัปตันคนใหม่ “แซม วิลสัน” (รับบทโดย แอนโธนี แม็คกี้) ผู้รับโล่สืบทอดตำแหน่งกัปตันอเมริกาอย่างเป็นทางการ ที่จะพาทุกคนไปชมการผจญภัยแบบเต็มรูปแบบหลังจากที่ “สตีฟ โรเจอร์” (รับบทโดย คริส เอแวนส์) ออกไปใช้ชีวิตเกษียณ ซึ่งเล่าเรื่องราวหลังจากที่ได้พบกับประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐอเมริกา แซมก็พบว่าเขากำลังอยู่ท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างประเทศ ทำให้เขาต้องค้นหาสาเหตุเบื้องหลังของเหตุการณ์อันเลวร้าย ก่อนที่โลกทั้งใบจะลุกเป็นไฟด้วยแผนการของวายร้ายคนนี้ หนังใหม่น่าดู เตรียมเข้าโรงพร้อมภารกิจครั้งสำคัญที่มีโลกเป็นเดิมพัน

รีวิว Kinda Pregnant สตรีมีคัน

เรื่องราวของเลนนี่ หญิงสาววัยออกเรือนที่พบว่าแผนการสร้างครอบครัวและมีทายาทของเธอต้องเผชิญหน้ากับความล้มเหลว ผนวกกับความอิจฉาที่เห็นเพื่อนกับคนรอบข้างเป็นฝั่งเป็นฝามีเจ้าตัวน้อยตุ๊บป่องกันหลายคน ทำให้เธอตัดสินใจที่แสร้งว่าเป็นคนท้อง ด้วยการสวมชุดสูทเสริมหน้าท้องแบบหลอก ๆ แล้วเข้าสู่วังวนของคำโกหกผู้คนไปทั่ว กระทั่งเธอดันมาเจอกับชายในฝันของเธอโดยไม่ได้ตั้งใจ และในสถานการณ์ที่เธอทำได้แค่..ไปเรื่อย นี่คือผลงานล่าสุดของ “ไทเลอร์ สปินเดล” นักสร้างหนังและนักแสดงหนุ่มที่เคยฝากฝังผลงานหนังตลกเอาไว้พอประมาณ เพียงแต่ว่าเครดิตผลงานของเขาส่วนใหญ่มักจะยังไม่พบหนังตลกที่ประสบความสำเร็จสักเรื่องเลยก็ตาม และนี่ก็น่าจะเป็นหาสานต่ออีกลมหายใจในฐานะนักสร้างหนังของเขา ที่สตูดิโอใหญ่ ๆ อาจจะไม่เรียกตัวใช้บริการแล้ว แต่ความหวังในหมวดหนังสตรีมมิงก็ยังคงให้โอกาสกับเขาอยู่ และนี่คือโอกาสที่ท้าทายของเขาอีกหน โดยภาพรวมแล้ว Kinda Pregnant ก็จัดได้ว่าเป็นหนังที่ดูได้เพลิน ๆ สนุก ๆ แบบที่ต้องเตรียมตัวเตรียมใจกันเอาไว้ เพราะว่าหนังกลายเป็นคอนเทนท์ที่ยังทำได้ไม่สุดสักทาง ไม่ว่าจะเป็นการไปแตะจุดคอนเมดี้ที่ได้แค่เกือบถึง กับการชูประเด็นที่น่าสนใจแต่ก็ไม่สามารถขยี้มันออกมาได้ถึงแก่นอยู่ดี งานโปรดักชันก็ไร่เสน่ห์ แม้จะมีการแสดงของทีมนักแสดงตลกชั้นเลิศ แต่ก็มิอาจนำพาที่ช่วยพยุงหนังเรื่องนี้ไปตลอดรอดฝั่งได้

รีวิว You’re Cordially Invited รักแสบซ่า วิวาห์อลเวง (2025)

ภาพยนตร์ตลกฟีลครอบครัวที่อยากชวนทุกคนมาดูด้วยกันใน You’re Cordially Invited รักแสบซ่า วิวาห์อลเวง (2025) เมื่องานวิวาห์สองงานได้บังเอิญถูกบุ๊กจองจัดงานวันเดียวกันบนเกาะในฝันเล็ก ๆ ที่เกินเงื่อนไขขีดจำกัดที่สถานที่รองรับได้ ทำให้คู่บ่าวสาวแต่ละคู่ต้องเผชิญหน้ากับความท้าทาย ในโมเมนต์ที่พิเศษของพวกเขากับครอบครัว ท่ามกลางการต่อสู้แบบตาต่อต่อฟันต่อฟันระหว่าง จิม พ่อของเจ้าสาว กับ มาร์โกต์ พี่สาวสุดที่รักของเจ้าสาวอีกคน พวกเขาต้องชิงชัยแข่งขันกันจัดงานแต่งให้คนที่รัก และไม่มีฝ่ายไหนยินยอมให้การฉลองวิวาห์ครั้งนี้ต้องยุติลง โดยงานแต่งจะต้องเกิดขึ้น..!! แค่เห็นชื่อผู้กำกับก็พอจะรู้สึกหายห่วงไปเปราะนึง เพราะนี่คือผลงานใหม่ของ “นิโคลัส สตอลเลอร์” จากหนังตลกตัวตึง Neighbors เมื่อสิบปีก่อน กับหนังรักตลก LGBTQ+ ที่เราเลิฟมาก ๆ อย่าง Bros ที่หนังดันไม่ปังเท่าไหร่ ครั้งนี้เขายังคงรับหน้าที่กำกับและเขียนบทหนังเรื่องนี้ แน่นอนว่าพล็อตหนังอาจจะไม่ได้แปลกใหม่อะไร เป็นสูตรเก่า ๆ ที่ยังทรงประสิทธิภาพกับหนังแนวนี้ แบบสไตล์ Meet the Fockers มายำจี้กับ Wedding Crashers อะไรทำนองนั้น

รีวิวหนัง Heretic บ้านสั่งตาย (2024)

ภาพยนตร์ระทึกสุดซับซ้อนทางจิตวิทยาที่พาคนดูไปสำรวจเบื้องลึกแห่งหัวใจของคนโฉด Heretic บ้านสั่งตาย รีวิวหนังใหม่ เรื่องราวของมิชชันนารีเด็กสาวทั้งสองคน บาร์เนส กับ แพกซ์ตัน ได้เผชิญหน้ากับบทพิสูจน์พลังศรัทธาแห่งความเลื่อมใส เมื่อพวกเธอได้ทำการเคาะประตูผิดบ้านหลังไป เพราะเบื้องหน้าของพวกเธอก็คือ คุณรี้ด ชายสูงวัยที่ท่าทีมีไมตรีดี เชิญชวนเข้าไปสนทนาถกเถียงประเด็นศาสนาและความเชื่อ แต่แท้ที่จริงแล้วเขาคือชายโฺฉดผู้ชั่วร้าย ที่ชักพาให้พวกเธอเข้าสู่เกมแมวไล่จับหนูที่เหี้ยมโหดในบ้านของเขา บ้านสั่งตาย Heretic เป็นหนังที่ค่อนข้างเดินหมากและค่อย ๆ รุกฆาตด้วยการดำเนินเรื่องไปด้วยความลึกลับและลี้ลับทีละเรื่อย ๆ แม้ว่าหนังจะเปิดเรื่องขึ้นมาด้วยประเด็นชวนสยิวตั้งแต่ไดอะล็อกแรก แต่ก็อาบไปด้วยเส้นบางระหว่างความเชื่อกับพลังศรัทธาอันแรงกล้า ที่หยิบเอาแนวคิดทางศาสนาเข้ามาเชื่อมโยงเข้ากับการสำรวจจิตใจมนุษย์ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า 20 นาทีแรก หนังเต็มไปด้วยบทสนทนาแบบรัว ๆ ที่ชวนคล้อยหลับไม่น้อย แต่เมื่อย่างเข้าสู่นาทีที่ 30 เป็นต้นไป จะทำให้หลับไม่ลง อย่างที่เกริ่นเอาไว้ Heretic เป็นหนังสยองขวัญที่ค่อนข้างบีบคั่นและค่อย ๆ  ปั่นประสาทคนดูทีละเรื่อย ๆ ด้วยบรรยากาศที่ชวนไม่ไว้วางใจ ครึ่งแรกของหนังเปรียบเสมือนเป็นการแนะนำให้คนดูได้เห็นว่าวิธีของเกม ใครเป็นเจ้าของเกม ใครเป็นผู้เล่นเกม ก่อนที่มาถึงของช่วงครึ่งหลังที่พรั่งพรูมาด้วยความหฤหรรษ์ชวนสยองที่เติมเต็มแรงกดดันถึงคนดูมากขึ้นเรื่อย ๆ นำไปสู่เส้นทางที่เกินคาดเดาของตัวละครเลือกเดินไป

รีวิว Back in Action สายลับกลับมาลุย (2025)

 ภาพยนตร์แอคชันตลกมันส์ๆ เรื่องราวของ เอมิลี่ กับ แมตต์ อดีตเจ้าหน้าที่สายสืบซีไอเอ ที่พวกเขาได้ตัดสินใจหันหลังให้ชีวิตการเป็นสายลับมานานหลายปีแล้ว พร้อมใช้ชีวิตตามปกติ แต่ทว่าพวกเขาได้ถูกเรียกตัวกลับเข้าสู่วงการอีกครั้ง หลังจากที่ตนตัวของพวกเขาได้ถูกลักลอบและเปิดเผยออกไป ทั้งคู่จึงต้องหาหนทางในยับยั้งและกอบกู้ชื่อของตัวเอง ด้วยการกลับมาลุยกระหน่ำด้วยกันอีกสักหน นี่คือผลงานใหม่ของผู้กำกับ “เซ็ธ กอร์ดอน” มือสร้างที่เคยปังปั๊วะมาจากหนังตลกสัปดนเมื่อทศวรรษก่อน อย่าง Horrible Bosses หรือ Identity Thief แต่ในพักหลัก ๆ เขามักจะหันไปเอาดีฝั่งซีรีส์มากกว่า นี่น่าจะเป็นการกลับมาสร้างหนังใหญ่เต็มตัวอีกครั้งของเขาในรอบหลายปี ที่ต้องยอมรับว่าก็ต้องปัดฝุุ่นพอ ๆ กับนักแสดงนำหญิงของหนังเรื่องนี้พอประมาณทีเดียว โดยสรุปแล้ว Back in Action ก็เป็นแค่เพียงหนังลูกกวาดและหนังป็อปคอร์นที่ดูได้เพลิดเพลินดี แบบหาสาระใดอื่นได้ไม่ มีดีแค่เป็นเพียงหนังรวมนักแสดงเอาไว้แน่น ๆ และเป็นการคัมแบ็กกลับมาในรอบ 11 ปีของ คาเมรอน ดิแอซ ที่เคยประมาณลาออกจากวงการไปแล้ว หนังยังเต็มไปด้วยบาดแผลเหวอะหวะมากมาย เหมือนกับยำเอาหนังบู๊ดัง ๆ มาใส่เอาไว้ในเรื่องเดียว ถ้าดูเอามันส์ก็คือมันส์ ดูเอาฮาก็คือเพลินพอได้ แต่หนังก็ยังไม่มีตรงไหนที่น่าจดจำได้เลย  

รีวิว Brothers (2024) ปล้นครั้งนี้เพื่อพี่ที่รัก

ภาพยนตร์แอคชั่นตลกๆ หนังใหม่บู๊คลายเครียด Brothers ปล้นครั้งนี้เพื่อพี่ที่รัก ว่าด้วยชีวิตของพี่น้องฝาแฝดคนละไซส์ที่เกิดและเติบโตมากับครอบครัวอาชญากรผู้เลื่องชื่อ อย่าง ตระกูลมังเกอร์ พี่ชายคนโตคือ เจดี้ นักโจรกรรมที่ถูกจับกุมรับโทษอยู่ในคุก กับน้องนายคนเล็ก โม้ค ที่พยายามกลับตัวกลับใจใช้ชีวิตเป็นคนธรรมดา ๆ แต่เมื่อเจดี้พ้นโทษออกมา ทำให้ชีวิตของโม้คกลับมาสั่นคลอนอีกครั้ง เมื่อคู่หูพี่น้องต้องกลับเข้าไปเฉียดสู่วังวนอาชญากรรมอีกครั้งกับภารกิจที่ดูเหมือนจะเลื่ยงไม่ได้ หนังเรื่องนี้เป็นผลงานล่าสุดของผู้กำกับ แม็กซ์ บาร์บาโคว์ นักสร้างหนังที่เคยแจ้งเกิดหมาด ๆ มาจากหนังตลกร้ายไซไฟ Palm Springs เมื่อไม่กี่ปีก่อน ที่บัดนี้เขาได้มาวาดลวดลายในหนังแอคชันตลกแบบเต็มตัว ที่ยังคงกลิ่นอายความเป็นหนังตลกร้ายแสบสันต์เข็ดฟัน จากบทหนังของ “อีแทน โคเฮน” (จาก Holmes & Watson) กับ “มาคอน แบลร์” (จาก The Toxic Avenger) กลายออกมาเป็นหนังตลกรวมญาติอาชญกรที่สร้างเรื่องเข้าให้แล้ว ไฮไลต์ความโดดเด่นของ Brothers ปล้นครั้งนี้เพื่อพี่ที่รัก แน่นอนก็คือทีมนักแสดงที่จัดได้ว่าเป็นส่วนประทับที่ชวนประหลาดใจไม่น้อย เพราะหนังได้เบอร์ใหญ่เบอร์แม่เหล็กมาประชันบทบาทกันแบบไม่แคร์ค่าจ้างกันเลยทีเดียว การจับคู่ระหว่าง “จอช โบรลิน” กับ “ปีเตอร์ ดิงค์เลจ” ที่ต่างคนต่างเป็นนักแสดงระดับมือรางวัล