รีวิว sinners (2025) ซินเนอร์ส

ภาพยนตร์สยองขวัญเหนือธรรมชาติย้อนยุค ผลงานล่าสุดของผู้กำกับ ไรอัน คูเกลอร์ (Ryan Coogler) ที่กลับมาร่วมงานกับนักแสดงคู่บุญ ไมเคิล บี. จอร์แดน (Michael B. Jordan) อีกครั้ง หลังจากประสบความสำเร็จร่วมกันใน Fruitvale Station (2013), Creed (2015) และ Black Panther (2018) ทั้งสองภาค นำแสดงโดย ไมเคิล บี. จอร์แดน ที่ก้าวเข้ามารับบทแนวใหม่ในฐานะของ “คนบาป” ที่ทิ้งปัญหาชีวิตที่ไม่อยากจดจำเอาไว้เบื้องหลัง สองพี่น้องคู่แฝด (จอร์แดน) กลับมาบ้านเกิดเพื่อเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง แต่กลับพบว่ามีปีศาจชั่วร้ายที่ยิ่งใหญ่กว่ากำลังรอต้อนรับพวกเขากลับมา เรื่องย่อ :  เรื่องราวของ Sinners เกิดขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ทางตอนใต้ของสหรัฐฯ โดย ไมเคิล บี. จอร์แดน รับบทฝาแฝด สโมค และ สแต๊ก ที่ตัดสินใจกลับบ้านเกิดในรัฐมิสซิสซิปปีเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ แต่กลับต้องเผชิญกับ “ความชั่วร้ายที่ยิ่งใหญ่กว่า” ที่รอคอยอยู่

รีวิว “Thunderbolts* ธันเดอร์โบลต์ส*” (2025)

ผลงานหนังเรื่องนี้น่าจะเป็นงานสร้างยักษ์ใหญ่ระดับบ็อกซ์บัสเตอร์เรื่องแรกของผู้กำกับ “เจค ชไรเออร์” เลยก็ว่าได้ ถึงประสบการณ์ที่ผ่านมาของเขาจะทำแต่หนังสเกลไม่ได้ใหญ่โต แต่มักจะมีความโดดเด่นในแง่การเข้าถึงด้วยวิสัยทัศน์ลงรายละเอียดของเขา นั่นจึงทำให้พบว่า Thunderbolts* เต็มไปด้วยความพิถีพิถันตามมาตรฐานของหนังมาร์เวลพึงมี ตั้งแต่ฉากเปิดเริ่มแรก อีกทั้งยังสามารถสร้างกลิ่นอายความเอ็นจอยตามสูตรที่ทิ้งช่วงหายไปสักพักนึง เพียงแค่เปิดเรื่องมาได้ราว ๆ 30 นาทีก็ใส่เรื่องราวและทิศทางของหนังออกมาได้ชวนติดตาม ด้วยฝีมือการรังสรรค์บทของ “อีริก เพียร์สัน” อีกหนึ่งขาประจำมือปั้นบทของมาร์เวล คนที่เข้ามาในช่วงเฟส 3-4 ที่รู้ดีว่าจะดึงดูดผู้ชมได้อย่างไร ดังนั้นเขาจึงได้ใช้เสน่ห์และความโดดเด่นในมิติของคาแรกเตอร์ตัวละครต่าง ๆ เข้ามาช่วยปูพื้นที่เป็นองค์ประกอบที่ชัดเจนขึ้นในส่วนของการเล่าเรื่องที่ออกมาในแนวกึ่งเซอร์วิสพอประมาณ กลายเป็นว่า Thunderbolts* มาพร้อมกับบทหนังที่คีย์หลักที่ต้องการสื่อสารออกมาได้ค่อนข้างทรงพลังอย่างคาดไม่ถึง นี่คือหนังรวมทีมคนเหนือคนที่พวกเขาพิเศษมากกว่าทุกคน แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะเพรียบพร้อมไปทุกอย่าง หนังเรื่องนี้นอกจะทำหน้าที่ความบันเทิงในตัวเองได้แล้ว ยังกลายเป็นอีกข้อความที่สามารถช่วยฮีลใจคนดูได้อย่างน่าประทับใจ ผ่านในมุมมองที่ทุกคนต้องเผชิญหน้าสักวัน และนั่นยิ่งทำให้องค์ประกอบของเรื่องราวในหนังยิ่งหนังแน่นขึ้นได้

รีวิว Havoc (2025) ฝ่าหายนะครองเมือง

ติดตามเรื่องราวของวอล์คเกอร์ ตำรวจสายสืบที่กำลังเผชิญหน้ากับความบอบช้ำทางจิตใจยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ ระหว่างที่ต่อสู้ฝ่าฟันกับโลกอาชญากรรมใต้ดินของเมืองใหญ่ที่แสนจะเละเทะ แต่เพียงไม่นานนัก เขาก็พบว่าตัวเขากำลังเป็นเป้าหมายล่าติดตามตัวของพวกคนชั่วแก๊งต่าง ๆ รวมทั้งเพื่อนตำรวจที่ไม่ไว้วางใจเขาด้วย และเพราะว่าต้องหาทางช่วยเหลือลูกชายนักการเมืองผู้ทรงอิทธิพลของเมือง ก็ทำให้เขาเข้าไปพัวพันกับการคอร์รัปชันและสมคบคิดมากมาย ไม่ต่างกับการประจัญหน้ากับปีศาจแห่งอดีต แกเร็ธ อีแวนส์ ก็คือผู้กำกับที่เคยแจ้งเกิดมาจากหนังแอคชันสุดระห่ำ The Raid ทั้ง 2 ภาค ที่กลายเป็นหนังบู๊นอกสายตาที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี และครั้งนี้เขาก็กลับมารับหน้าที่กำกับและเขียนบทหนังอีกเหมือนเคย พร้อมกับใส่ความดิบเถื่อนทางศาสตร์ศิลปะการต่อสู้ฝั่งเอเชียที่เขาหลงใหลเป็นอย่างดีในหนังเรื่องนีอีกครั้ง ในแง่ขององค์ประกอบงานสร้าง แกเร็ธรู้ดีว่าแฟน ๆ หนังของเขาต้องการจะเห็นและอยากดูอะไร ทำให้เขาทำการเซอร์วิสออกมาได้อย่างถึงอารมณ์ นี่คือหนังที่อัดไปด้วยฉากบู๊และการสาดกระสุนในชนิดที่เกือบจะหมดคลังแสง สะท้อนผ่านงานภาพและจังหวะหนังในลักษณะที่เขาช่ำชองเป็นอย่างดี เป็นการออกลีลาบู๊ที่กระฉูดไปด้วยเลือด โหดสุดขั้นแบบไม่ปราณีกระดูกสันหลัง รีวิวหนังใหม่

รีวิว Goodbye Christopher Robin (แด่ คริสโตเฟอร์ โรบิน ตำนานวินนี เดอะ พูห์ )

ผลงานการกำกับของ Simon Curtis ที่เคยมีผลงานอย่าง ‘Woman in Gold’ และ ‘My Week with Marilyn‘ ดูท่าเขาจะนิยมชมชอบการสร้างหนังแนวชีวประวัติเสียจริงๆ แรกเริ่ม หนังก็เล่าเรื่องของอลัน มิลน์ สุดยอดนักเขียนผู้เคยต้องไปรับราชการทหารในสงครามครั้งใหญ่ รอดกลับมาได้แต่มันก็ส่งผลให้เขาเกลียดและกลัวมัน มักจะพูดเพื่อปลอบใจตัวเองว่า สงครามมันสงบลงแล้ว ที่เขาไปร่วมรบนั่นเพื่อให้มันเป็นสงครามครั้งสุดท้าย มันจะไม่มีทางเกิดขึ้นได้อีก เรื่องย่อ : เรื่องราวที่ย้อนไปยังวัยหนุ่มของพลทหารอลัน มิลน์ (Domhnall Gleeson) สงครามที่แสนโหดร้ายทำให้เขามีอาการบางอย่างที่ไม่เคยหายไป เขาแต่งงานกับสาวสวยอย่าง แดฟเน่ (Margot Robbie) ด้วยความหวังว่าเขาจะหายจากอาการนั้น พวกเขาย้ายไปอยู่บ้านนอก รีวิวหนังใหม่ เด็กชายคริสโตเฟอร์ (Will Tilston) เติบโตขึ้นมาในครอบครัวดูพ่อแม่ดูจะชอบเที่ยวกันมาก แต่พอวันหนึ่ง ความสัมพันธ์ของเขากับพ่อก็เกิดแน่นแฟ้นขึ้น ความน่ารักช่างจินตนาการและช่างเจรจาของคริสโตเฟอร์สร้างแรงบันดาลใจให้พ่อของเขาสร้างผลงานเขียนที่กลายมาเป็นตัวละครที่ผู้คนรู้จัก

รีวิว The Accountant 2 อัจฉริยะคนบัญชีเพชฌฆาต 2 (2025)

เรื่องราวของคริสเตียน วูฟฟ์ บุคคลผู้มีความสามาถพิเศษในการจัดการปัญหาที่ซับซ้อน  เมื่อคนรู้จักเก่าถูกฆาตกรรม โดยทิ้งข้อความลึกลับไว้ว่า “ตามหานักบัญชี” วูล์ฟฟ์จึงถูกบังคับให้คลี่คลายคดีนี้แบบปฏิเสธไม่ได้ และเขาตระหนักได้ว่าการแก้ปัญหาในครั้งนี้ รีวิวหนังใหม่ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องใช้มาตรการที่รุนแรงกว่านี้ วูล์ฟฟ์จึงรับสมัคร แบรซตัน น้องชายที่ห่างเหินและอันตรายมากของเขาเข้ามาช่วย ด้วยความร่วมมือกับรองผู้อำนวยการกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ แมรีเบธ เมดินา พวกเขาค้นพบแผนการสมรู้ร่วมคิดที่กลายเป็นเป้าหมายของเครือข่ายแก๊งนักฆ่าผู้โหดเหี้ยมและพวกมันจะไม่หยุดล่าเพื่อปกปิดความลับของพวกมัน

รีวิว Until Dawn ต้องรอดก่อนย่ำรุ่ง (2025)

การเดินทางแห่งหายนะนี้เริ่มต้นขึ้น ในตอนที่เพื่อนห้าคนออกเดินทาง เพื่อตามหาพี่สาวที่หายตัวไปของโคลเวอร์ (นำแสดงโดย เอลลา รูบิน) ผู้หายตัวไปอย่างกะทันหันและลึกลับ เมลานีย์ (นำแสดงโดย ไมอา มิทเชล) ผู้เป็นพี่สาว เธอส่งคลิปวิดีโอทางมือถือให้กับโคลเวอร์ ซึ่งบันทึกภาพด้านนอกปั๊มน้ำมัน ที่ดูห่างไกลผู้คน ที่นั่นคือจุดหมายของพวกเขา “เอลลา รูบิน” ตัวแทนนักแสดงนำเล่าว่า “เพื่อนๆ ของโคลเวอร์ ( ตัวละครที่ฉันรับบท) ได้ร่วมเดินทางไปกับเธอ ไม่ใช่ด้วยความหวังที่จะเจอหญิงสาวที่หายตัวไปหรอก แต่เพื่อเป็นกำลังใจให้โคลเวอร์ในการรับมือกับการสูญเสียให้ได้คะ พวกเราคิดว่าเมลานีย์ไม่น่าจะมีชีวิตอยู่แล้วล่ะค่ะ แต่สิ่งที่พวกเราไม่คาดคิด คือความสยองขวัญที่เจอหลังจากนั้น หนังเรื่องนี้เป็นหนังสยองขวัญเหนือธรรมชาติ เป็นเรื่องราวที่คาดเดาไม่ได้เพราะตัวละครแต่ละตัวจะต้องเลือกว่าจะเอาตัวรอดยังไงเพื่อให้มีชีวิตไปจนถึงรุ่งสางได้โดยไม่ตายเสียก่อน รายชื่อนักแสดงนำผู้ร่วมชะตากรรม เอลลา รูบิน รับบท โคลเวอร์, ไมเคิล ซิมิโน รับบท แม็กซ์, โอเดสซา เอไซออน รับบท นินา, ยูจียอง รับบท เมแกน, เบลมอนต์ กาเมลิ รับบท อาเบอ, เมียอา มิตเชลล์ รับบท เมลานี,

รีวิว The Life List รายการชีวิต (2025)

เรื่องราวของ อเล็กซ์ หญิงสาวที่ยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันในวัยผู้ใหญ่ เมื่อแม่ที่สนิทกับเธอที่สุดได้จากไปแบบไม่มีวันกลับ แม่ได้มอบพินัยกรรมเป็นลิสต์รายการที่อเล็กซ์เคยเขียนเอาไว้ตอนกำลังจะเป็นวัยรุ่น ทำให้แม่ได้สั่งเสียเป็นครั้งสุดท้ายที่จะให้ลูกสาวได้ลองทำตามรายการชีวิตที่เคยลิสต์เอาไว้ ที่นั่นทำให้เธอเผชิญหน้ากับความสุขและความทุกข์ พร้อมกับได้ค้นพบความลับของครอบครัว รวมทั้งอีกแง่มุมของความรัก และรู้จักตัวตนที่แท้ตริงของตัวเองไปพร้อม ๆ กัน นี่คือผลงานการกำกับและเขียนบทของ “อดัม บรูคส์” ที่นับว่าเป็นการกลับมาสร้างหนังอีกครั้งในรอบเกือบ 20 ปีของเขา นับตั้งแต่หนังรัก Definitely, Maybe ที่ดูเหมือนว่าจะเป็นคอนเทนท์ที่เข้ามือและเข้าทางเป็นอย่างดี ถึงแม้ว่าโครงสร้างต่าง ๆ จะไม่มีอะไรแปลกใหม่อะไร เป็นไปตามสูตรสำเร็จหนังชีวิตและการค้นหาชีวิตที่มันจะแฝงด้วยคำคมและมีมต่าง ๆ ที่น่าจะถูกนำมากักเก็บเป็นประโยคดี ๆ ในภายหลัง The Life List ก็คงจะเป็นเหมือนหนังที่เข้ามาช่วยเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายไปของผู้ใหญ่ที่เติบโตมาด้วยความโหยหาความสำเร็จที่ยังไม่เฉียดเข้าใกล้ด้วยซ้ำ อาจจะเป็นพล็อตสูตรเดิมและไม่ได้มีอะไรที่จัดจ้านโดดเด่นเท่าไหร่ แต่อย่างน้อย ๆ คีย์หลักของหนังเรื่องนี้ก็คือการสะท้อนมุมมองชีวิตที่เป็นแรงพลังดันที่ทำให้เกิดเป็นสิ่งใหม่ ๆ ในมุมมองที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน เหมือนกับความกล้าที่จะก้าวออกไปสัมผัสสถานที่ใหม่ ๆ นั่นเอง

รีวิว The Twister: Caught in the Storm (2025)

สารคดีที่เล่าเรื่องจากฟุตเทจของหลายคนที่ผ่านเหตุพายุทอร์นาโดระดับใหญ่ EF-5 ความเร็วลมถึง 200 ไมล์ต่อชั่วโมง ในวันที่ 22 พฤษภาคม 2011 ที่เมืองจอปลิน รัฐมิสซูรี่ สหรัฐอเมริกา เรื่องราวนี้มีความน่าสนใจอย่างมาก โดยเฉพาะการโฆษณาว่ามีฟุตเทจจากใจกลางพายุ ซึ่งผู้ชมที่เคยดูภาพยนตร์ทวิสเตอร์คงจำได้ว่านั่นเป็นตอนจบของภาคแรกที่ตัวละครได้เข้าไปอยู่ในตาพายุ และทุกอย่างดูน่าทึ่งมหัศจรรย์อย่างยิ่ง สารคดีเรื่องนี้พยายามอ้างอิงถึงหนังทวิสเตอร์โดยตรงตั้งแต่ชื่อเรื่อง รวมถึงนำเสนอกลุ่มนักล่าพายุที่ออกมาเล่าเหตุการณ์ โดยบอกว่าพวกเขาชื่นชอบภาพยนตร์เรื่องนี้มากและเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้พวกเขาไปเผชิญกับพายุลูกนี้ รีวิวหนังใหม่ The Twister: Caught in the Storm สารคดีพยายามนำเสนอในแนว “การเติบโตสู่วัยผู้ใหญ่” ของวัยรุ่น โดยให้ตัวละครในเรื่องเป็นช่วงวัยรุ่นเกือบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่จบการศึกษาในวันเกิดเหตุพอดีแล้วต้องเผชิญกับพายุทอร์นาโดที่พัดถล่ม หรือเด็กที่ใฝ่ฝันอยากเป็นนักพยากรณ์อากาศ แต่เรื่องราวที่นำเสนอกลับเรียบง่ายและไม่มีพลัง ไม่สามารถสร้างความประทับใจให้ผู้ชมได้ แม้ว่าผู้สร้างจะพยายามสร้างจุดสนใจด้วยเรื่องของผู้รอดชีวิตคนสุดท้ายที่ติดเชื้อราจากพายุจนเนื้อถูกกัดกร่อนเกือบเสียชีวิต แต่รอดมาได้อย่างปาฏิหาริย์ แต่สารคดีกลับเล่าเรื่องนี้แบบผ่านๆ สั้นๆ ไม่ได้พัฒนาให้เป็นจุดสุดยอดของเรื่อง นอกจากทำให้รู้สึกว่าเป็นเรื่องแปลกที่น่าสนใจเท่านั้น จนทำให้สารคดีนี้ดูเหมือนถูกสร้างขึ้นอย่างลวกๆ เพื่อเกาะกระแสภาพยนตร์ ซึ่งที่จริงแล้วภาพยนตร์ดังกล่าวก็ฉายไปก่อนหน้านั้นนานแล้ว และยังไม่ทันเวลาที่หนังจะเข้าฉายด้วยซ้ำ

รีวิวหนัง Arthur the King

แม้จะเป็นหนังที่มีสุนัขเป็นตัวละครสำคัญ แต่เนื้อหาการแข่งขันกลับเข้มข้นดุเดือดไม่แพ้หนังกีฬาชั้นดี การแข่งขันนี้ไม่ได้ทดสอบแค่ความอดทน แต่ยังต้องใช้ไหวพริบในการเลือกเส้นทางที่ได้เปรียบ ซึ่งทีมของไมเคิลก็เลือกที่จะใช้เส้นทางลัดเป็นหลักเนื่องจากมีสมาชิกที่มีอายุมากและมีข้อจำกัดด้านสุขภาพ แต่ทุกคนมาร่วมแข่งเพื่อพิสูจน์ศักยภาพของตัวเอง Arthur the King หนังสร้างความตื่นเต้นผ่านฉากที่ทีมต้องฝ่าฟันความท้าทายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการข้ามหุบเขาโดยใช้สลิงที่แทบไม่น่าเชื่อว่าพวกเขากล้าทำ การปีนหน้าผาชันพร้อมแบกจักรยานไปด้วย และตลอดเส้นทางนี้ อาร์เธอร์ไม่เพียงแค่ตามติดทีมไปทุกที่ ยังกลายเป็นทั้งกำลังใจและผู้ช่วยเตือนภัยที่มนุษย์มองไม่เห็น แม้ตัวมันเองจะได้รับบาดเจ็บ แต่ก็ยังสามารถติดตามทีมไปได้ตลอดรอดฝั่ง แม้แต่ในช่วงพายเรือในทะเล อาร์เธอร์ยังหาทางตามไปได้ในฉากไคลแมกซ์ที่สร้างความประทับใจสุดๆ หนังไม่ได้จบลงแค่การแข่งขัน แต่ 15 นาทีสุดท้ายของเรื่องกลับสร้างความลุ้นระทึกและความรู้สึกที่ลึกซึ้งกว่า เมื่ออาร์เธอร์ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนสัตวแพทย์ในเอกวาดอร์ไม่สามารถรักษาได้ ต้องพามันกลับไปรักษาที่อเมริกา เรื่องราวการต่อสู้เพื่อชีวิตของอาร์เธอร์กลายเป็นความผูกพันที่แน่นแฟ้นระหว่างคนและสุนัข ถึงแม้จะมีอุปสรรคที่ดูเล็กน้อย แต่ในช่วงเวลาวิกฤตที่ทุกวินาทีคือความเป็นความตายของอาร์เธอร์ ก็ทำให้ผู้ชมลุ้นระทึกยิ่งกว่าช่วงการแข่งขันเสียอีก

รีวิว Novocaine มิสเตอร์โคตรคนทรหด (2025)

รีวิวหนังใหม่ Novocaine มิสเตอร์โคตรคนทรหด เรื่องราวของชายหนุ่มคลั่งรักผู้เกิดมาพร้อมกับปัญหาด้านพันธุกรรม ร่างกายของเขาไม่รู้สึกเจ็บปวด แต่นั่นเป็นความเสี่ยงที่เขาต้องแบกรับ จนทำให้เขาค่อนข้างเก็บตัว จนมาเจอกับหญิงสาวคนที่ทำโลกทั้งใบเปลี่ยน และเธอก็ถูกแก๊งโจรลักพาตัวไป เขาจึงใช้มันช่วยชีวิตเธอ หนังปูพื้นตัวเอกได้ดีจนแทบจะเหมือนหนังรัก ก่อนที่จะพาคนดูไปสู่พาร์ททริลเลอร์สุดเสียวไส้ เมื่อฉากเจ็บตัว (แต่ตัวเอกไม่รู้สึกเจ็บ) ที่สุดฮาถูกระดมยิงมาอย่างไม่ยั้งมือ เรื่องย่อ : เรื่องราวมันเกิดขึ้นในธนาคารสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งหนึ่ง ซึ่งมีผู้ช่วยผู้จัดการเป็น เนท หรือ นาธาน เคน (Jack Quaid จากซีรีส์ ‘The Boys’ และหนัง ‘Companion’) ผู้เกิดมามีปัญหาด้านพันธุกรรม เขาไม่มีความรู้สึกเจ็บปวดใดๆ นั่นทำให้เขาดำรงชีวิตอยู่อย่างระมัดระวังมาโดยตลอด จนถึงวันที่เขาได้พบกับพนักงานคนใหม่ เธอชื่อ เชอร์รี่ (Amber Midthunder จากหนัง ‘Prey’ และ ‘The Ice Road’) ต่างต้องใจกัน และความสัมพันธ์ก็รุดหน้าไปอย่างรวดเร็ว ถ้าบังเอิญไม่เกิดเหตุขึ้น ก่อนจะถึงวันคริสต์มาส แก๊งโจรที่สวมชุดซานตาคลอสก็เดินเข้ามาพร้อมปืนในมือ พวกมันทั้งปล้นเงิน สังหารผู้จัดการธนาคาร แถมยังคว้าตัวเชอร์รี่ในฐานะตัวประกันออกไปกับพวกมันด้วย ทำให้เนทต้องใช้ความผิดปกติของตนเองให้เป็นประโยชน์ ความไม่เจ็บของเขาจะช่วยให้เป็นฮีโร่และทำให้เขาช่วยชีวิตคนรักได้หรือไม่ ต้องมาตามดูกัน จะว่าไป นี่มันก็คือหนังแนวซูเปอร์ฮีโร่ในอีกรูปแบบหนึ่ง ต่างแค่เขาเป็นคนธรรมดาที่ตั้งใจใช้พลังพิเศษเพื่อช่วยคนรัก ไม่ได้ช่วยคนทั้งโลกเท่านั้นเอง แถมยังเป็นคนธรรมดาที่น่าสงสาร เพราะต้องเอาร่างกายเข้าไปเสี่ยงตาย และเป็นคนเพื่อนน้อยอีกต่างหาก เป็นคาแรกเตอร์ที่คนดูรู้สึกเอาใจช่วยแบบสุดๆ