รีวิว Shadow Force ดับเบิลจารชน โคตรคนไร้เงา (2025)

รีวิวหนังใหม่ Shadow Force ดับเบิลจารชน โคตรคนไร้เงา จัดได้ว่าเป็นหนังแอคชันพิมพ์นิยมที่อาจจะเป็นหนังป็อบคอร์นที่ดูได้เพลิน ๆ แต่กลับไม่มีอะไรที่น่าจดจำเลย หลายองค์ประกอบของหนังค่อนข้างตกยุคไปเสียแล้ว บทหนังที่อาจจะดำเนินไปตามสูตร แต่ยังค่อนข้างล่องลอยและเข้าความเฉียบคมในทุก ๆ มิติ แม้แต่ในพาร์ทการแสดงที่ได้นักแสดงเบอร์ดี ๆ แต่บทไม่สามารถส่งพวกเขาไปในทางที่เหมาะเจาะได้ สุดท้ายจึงกลายออกมาเป็นหนังบู๊โทนเดิม ๆ ที่น่าจะเหมาะกับสร้างเป็นหนังจอเล็กมากกว่า เรื่องย่อ : ไอแซ็ก และ ไคราห์ สองสุดยอดสายลับสังกัดหน่วยรบพิเศษชาโดว์ฟอร์ซ องค์กรนักฆ่ามืออาชีพกับปฏิบัติการภารกิจลับที่โลกไม่เคยรู้ เมื่อทั้งคู่คิดทำลายกฎเหล็ก จากนักฆ่าจึงกลายเป็นเหยื่อล่าของคนทั้งองค์กร ทางรอดเดียวคืองัดทุกสกิลที่มีมาถอนรากถอนโคนโค่นทุกแผนการตามล่าขององค์กรพิฆาตนี้ให้สิ้นซาก Shadow Force ก็ยังคงเป็นผลงานที่ โจ คาร์นาฮาน รับหน้าที่่กำกับและเขียนบทหนัง ที่เป็นการขัดเกลาปรับบทหนังต้นฉบับของ “ลีออง ชิลล์ส” ที่คงจะต้องเรียนแจ้งให้ทราบอย่างตรงไปตรงมาว่า เป็นบทหนังที่ค่อนข้างเชยดี เต็มไปด้วยความคร่ำครึตลอดทั้งเรื่อง ซ้ำยังพาผู้ชมไปสำรวจห้วงต่าง ๆ ได้แบบไม่สุดสักทางเดียว เหมาะที่จะสร้างออกมาเป็นสเกลหนังสตรีมมิงจอเล็กมากกว่าระดับยิ่งใหญ่บนจอใหญ่ที่พลังของหนังไปถึงจุดนั้นได้อย่างกระเสือกกระสน

รีวิว Nonnas รักนะย่ายายจ๋า (2025)

สนุกชวนปาดน้ำตาตลอดทั้งเรื่อง หนังชีวิตกลิ่นอายความอบอุ่นเรื่องใหม่ Nonnas รักนะย่าย้ายจ๋า ติดตามเรื่องราวของ โจอี้ ชายหนุ่มที่เติบโตมากับครอบครัวชาวอิตาเลียนใจกลางมหานครนิวยอร์ก บัดนี้เขาเป็นหนุ่มใหญ่วัยหลักสี่ ที่เพิ่งจะสูญเสียแม่ผู้เป็นที่รักไป บ้านที่แสนอบอุ่นบัดนี้มีแต่ความเงียบงันคืบคลานเข้ามาแทนที่ เขาจึงตัดสินใจใช้เงินประกันชีวิตของแม่มาซื้อร้านอาหารเก่าแก่บนเกาะสแตเทน เพื่อหวังจะเปิดร้านอาหารที่ดึงเอารสชาติอาหารอิตาเลียนดั้งเดิมสูตรของที่บ้านมาเผยแพร่ พร้อมกับการร่วมมือของคุณย่าคุณยายที่เปี่ยมไปด้วยรสมือสุดเด็ด แม้ว่าประสบการณ์จะเป็นศูนย์ ถ้าหากว่าคุณชอบที่เสพย์สุขกับหนังฟีลกู้ด บรรยากาศดี ๆ พล็อตเรื่องง่าย ๆ สบายใจสบายกาย Nonnas รักนะย่ายายจ๋า เรื่องนี้ก็เหมาะเจาะกับคุณเป็นอย่างยิ่ง เพราะนี่คือผลงานล่าสุดของผู้กำกับชื่อดัง “สตีเฟน ชโบสกี” จาก Wonder และ The Perks of Being a Wallflower ที่ได้หวนกลับมาละเลงความสุขในผลงานแนวถนัดของเขาอีกครั้ง Nonnas อาจจะไม่ใช่หนังที่สดใหม่แต่อย่างใด แต่อย่างน้อย ๆ หนังก็สื่อสารออกมาได้ตรงประเด็น และลึกซึ้งได้อย่างตรงไปตรงมา เป็นหนังชีวิตที่สะท้อนผ่านมุมมองของผู้คนระหว่างเจเนอเรชัน ฝั่งคนวัยกลางคน กับคนวัยไม้ใกล้ฝั่ง นี่คือการโปรยสตอรี่ของผู้คนที่ล้วนแต่พานพบประสบการณ์ชีวิตมายาวนาน ถึงชีวิตเต็มไปด้วยเรื่องราว เปี่ยมล้มไปด้วยความสุขและความทุกข์ที่ปะปนกันไปเสมอ

รีวิว sinners (2025) ซินเนอร์ส

ภาพยนตร์สยองขวัญเหนือธรรมชาติย้อนยุค ผลงานล่าสุดของผู้กำกับ ไรอัน คูเกลอร์ (Ryan Coogler) ที่กลับมาร่วมงานกับนักแสดงคู่บุญ ไมเคิล บี. จอร์แดน (Michael B. Jordan) อีกครั้ง หลังจากประสบความสำเร็จร่วมกันใน Fruitvale Station (2013), Creed (2015) และ Black Panther (2018) ทั้งสองภาค นำแสดงโดย ไมเคิล บี. จอร์แดน ที่ก้าวเข้ามารับบทแนวใหม่ในฐานะของ “คนบาป” ที่ทิ้งปัญหาชีวิตที่ไม่อยากจดจำเอาไว้เบื้องหลัง สองพี่น้องคู่แฝด (จอร์แดน) กลับมาบ้านเกิดเพื่อเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง แต่กลับพบว่ามีปีศาจชั่วร้ายที่ยิ่งใหญ่กว่ากำลังรอต้อนรับพวกเขากลับมา เรื่องย่อ :  เรื่องราวของ Sinners เกิดขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ทางตอนใต้ของสหรัฐฯ โดย ไมเคิล บี. จอร์แดน รับบทฝาแฝด สโมค และ สแต๊ก ที่ตัดสินใจกลับบ้านเกิดในรัฐมิสซิสซิปปีเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ แต่กลับต้องเผชิญกับ “ความชั่วร้ายที่ยิ่งใหญ่กว่า” ที่รอคอยอยู่

รีวิว “Thunderbolts* ธันเดอร์โบลต์ส*” (2025)

ผลงานหนังเรื่องนี้น่าจะเป็นงานสร้างยักษ์ใหญ่ระดับบ็อกซ์บัสเตอร์เรื่องแรกของผู้กำกับ “เจค ชไรเออร์” เลยก็ว่าได้ ถึงประสบการณ์ที่ผ่านมาของเขาจะทำแต่หนังสเกลไม่ได้ใหญ่โต แต่มักจะมีความโดดเด่นในแง่การเข้าถึงด้วยวิสัยทัศน์ลงรายละเอียดของเขา นั่นจึงทำให้พบว่า Thunderbolts* เต็มไปด้วยความพิถีพิถันตามมาตรฐานของหนังมาร์เวลพึงมี ตั้งแต่ฉากเปิดเริ่มแรก อีกทั้งยังสามารถสร้างกลิ่นอายความเอ็นจอยตามสูตรที่ทิ้งช่วงหายไปสักพักนึง เพียงแค่เปิดเรื่องมาได้ราว ๆ 30 นาทีก็ใส่เรื่องราวและทิศทางของหนังออกมาได้ชวนติดตาม ด้วยฝีมือการรังสรรค์บทของ “อีริก เพียร์สัน” อีกหนึ่งขาประจำมือปั้นบทของมาร์เวล คนที่เข้ามาในช่วงเฟส 3-4 ที่รู้ดีว่าจะดึงดูดผู้ชมได้อย่างไร ดังนั้นเขาจึงได้ใช้เสน่ห์และความโดดเด่นในมิติของคาแรกเตอร์ตัวละครต่าง ๆ เข้ามาช่วยปูพื้นที่เป็นองค์ประกอบที่ชัดเจนขึ้นในส่วนของการเล่าเรื่องที่ออกมาในแนวกึ่งเซอร์วิสพอประมาณ กลายเป็นว่า Thunderbolts* มาพร้อมกับบทหนังที่คีย์หลักที่ต้องการสื่อสารออกมาได้ค่อนข้างทรงพลังอย่างคาดไม่ถึง นี่คือหนังรวมทีมคนเหนือคนที่พวกเขาพิเศษมากกว่าทุกคน แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะเพรียบพร้อมไปทุกอย่าง หนังเรื่องนี้นอกจะทำหน้าที่ความบันเทิงในตัวเองได้แล้ว ยังกลายเป็นอีกข้อความที่สามารถช่วยฮีลใจคนดูได้อย่างน่าประทับใจ ผ่านในมุมมองที่ทุกคนต้องเผชิญหน้าสักวัน และนั่นยิ่งทำให้องค์ประกอบของเรื่องราวในหนังยิ่งหนังแน่นขึ้นได้

รีวิว Havoc (2025) ฝ่าหายนะครองเมือง

ติดตามเรื่องราวของวอล์คเกอร์ ตำรวจสายสืบที่กำลังเผชิญหน้ากับความบอบช้ำทางจิตใจยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ ระหว่างที่ต่อสู้ฝ่าฟันกับโลกอาชญากรรมใต้ดินของเมืองใหญ่ที่แสนจะเละเทะ แต่เพียงไม่นานนัก เขาก็พบว่าตัวเขากำลังเป็นเป้าหมายล่าติดตามตัวของพวกคนชั่วแก๊งต่าง ๆ รวมทั้งเพื่อนตำรวจที่ไม่ไว้วางใจเขาด้วย และเพราะว่าต้องหาทางช่วยเหลือลูกชายนักการเมืองผู้ทรงอิทธิพลของเมือง ก็ทำให้เขาเข้าไปพัวพันกับการคอร์รัปชันและสมคบคิดมากมาย ไม่ต่างกับการประจัญหน้ากับปีศาจแห่งอดีต แกเร็ธ อีแวนส์ ก็คือผู้กำกับที่เคยแจ้งเกิดมาจากหนังแอคชันสุดระห่ำ The Raid ทั้ง 2 ภาค ที่กลายเป็นหนังบู๊นอกสายตาที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี และครั้งนี้เขาก็กลับมารับหน้าที่กำกับและเขียนบทหนังอีกเหมือนเคย พร้อมกับใส่ความดิบเถื่อนทางศาสตร์ศิลปะการต่อสู้ฝั่งเอเชียที่เขาหลงใหลเป็นอย่างดีในหนังเรื่องนีอีกครั้ง ในแง่ขององค์ประกอบงานสร้าง แกเร็ธรู้ดีว่าแฟน ๆ หนังของเขาต้องการจะเห็นและอยากดูอะไร ทำให้เขาทำการเซอร์วิสออกมาได้อย่างถึงอารมณ์ นี่คือหนังที่อัดไปด้วยฉากบู๊และการสาดกระสุนในชนิดที่เกือบจะหมดคลังแสง สะท้อนผ่านงานภาพและจังหวะหนังในลักษณะที่เขาช่ำชองเป็นอย่างดี เป็นการออกลีลาบู๊ที่กระฉูดไปด้วยเลือด โหดสุดขั้นแบบไม่ปราณีกระดูกสันหลัง รีวิวหนังใหม่

รีวิว Goodbye Christopher Robin (แด่ คริสโตเฟอร์ โรบิน ตำนานวินนี เดอะ พูห์ )

ผลงานการกำกับของ Simon Curtis ที่เคยมีผลงานอย่าง ‘Woman in Gold’ และ ‘My Week with Marilyn‘ ดูท่าเขาจะนิยมชมชอบการสร้างหนังแนวชีวประวัติเสียจริงๆ แรกเริ่ม หนังก็เล่าเรื่องของอลัน มิลน์ สุดยอดนักเขียนผู้เคยต้องไปรับราชการทหารในสงครามครั้งใหญ่ รอดกลับมาได้แต่มันก็ส่งผลให้เขาเกลียดและกลัวมัน มักจะพูดเพื่อปลอบใจตัวเองว่า สงครามมันสงบลงแล้ว ที่เขาไปร่วมรบนั่นเพื่อให้มันเป็นสงครามครั้งสุดท้าย มันจะไม่มีทางเกิดขึ้นได้อีก เรื่องย่อ : เรื่องราวที่ย้อนไปยังวัยหนุ่มของพลทหารอลัน มิลน์ (Domhnall Gleeson) สงครามที่แสนโหดร้ายทำให้เขามีอาการบางอย่างที่ไม่เคยหายไป เขาแต่งงานกับสาวสวยอย่าง แดฟเน่ (Margot Robbie) ด้วยความหวังว่าเขาจะหายจากอาการนั้น พวกเขาย้ายไปอยู่บ้านนอก รีวิวหนังใหม่ เด็กชายคริสโตเฟอร์ (Will Tilston) เติบโตขึ้นมาในครอบครัวดูพ่อแม่ดูจะชอบเที่ยวกันมาก แต่พอวันหนึ่ง ความสัมพันธ์ของเขากับพ่อก็เกิดแน่นแฟ้นขึ้น ความน่ารักช่างจินตนาการและช่างเจรจาของคริสโตเฟอร์สร้างแรงบันดาลใจให้พ่อของเขาสร้างผลงานเขียนที่กลายมาเป็นตัวละครที่ผู้คนรู้จัก

รีวิว The Accountant 2 อัจฉริยะคนบัญชีเพชฌฆาต 2 (2025)

เรื่องราวของคริสเตียน วูฟฟ์ บุคคลผู้มีความสามาถพิเศษในการจัดการปัญหาที่ซับซ้อน  เมื่อคนรู้จักเก่าถูกฆาตกรรม โดยทิ้งข้อความลึกลับไว้ว่า “ตามหานักบัญชี” วูล์ฟฟ์จึงถูกบังคับให้คลี่คลายคดีนี้แบบปฏิเสธไม่ได้ และเขาตระหนักได้ว่าการแก้ปัญหาในครั้งนี้ รีวิวหนังใหม่ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องใช้มาตรการที่รุนแรงกว่านี้ วูล์ฟฟ์จึงรับสมัคร แบรซตัน น้องชายที่ห่างเหินและอันตรายมากของเขาเข้ามาช่วย ด้วยความร่วมมือกับรองผู้อำนวยการกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ แมรีเบธ เมดินา พวกเขาค้นพบแผนการสมรู้ร่วมคิดที่กลายเป็นเป้าหมายของเครือข่ายแก๊งนักฆ่าผู้โหดเหี้ยมและพวกมันจะไม่หยุดล่าเพื่อปกปิดความลับของพวกมัน

รีวิว Until Dawn ต้องรอดก่อนย่ำรุ่ง (2025)

การเดินทางแห่งหายนะนี้เริ่มต้นขึ้น ในตอนที่เพื่อนห้าคนออกเดินทาง เพื่อตามหาพี่สาวที่หายตัวไปของโคลเวอร์ (นำแสดงโดย เอลลา รูบิน) ผู้หายตัวไปอย่างกะทันหันและลึกลับ เมลานีย์ (นำแสดงโดย ไมอา มิทเชล) ผู้เป็นพี่สาว เธอส่งคลิปวิดีโอทางมือถือให้กับโคลเวอร์ ซึ่งบันทึกภาพด้านนอกปั๊มน้ำมัน ที่ดูห่างไกลผู้คน ที่นั่นคือจุดหมายของพวกเขา “เอลลา รูบิน” ตัวแทนนักแสดงนำเล่าว่า “เพื่อนๆ ของโคลเวอร์ ( ตัวละครที่ฉันรับบท) ได้ร่วมเดินทางไปกับเธอ ไม่ใช่ด้วยความหวังที่จะเจอหญิงสาวที่หายตัวไปหรอก แต่เพื่อเป็นกำลังใจให้โคลเวอร์ในการรับมือกับการสูญเสียให้ได้คะ พวกเราคิดว่าเมลานีย์ไม่น่าจะมีชีวิตอยู่แล้วล่ะค่ะ แต่สิ่งที่พวกเราไม่คาดคิด คือความสยองขวัญที่เจอหลังจากนั้น หนังเรื่องนี้เป็นหนังสยองขวัญเหนือธรรมชาติ เป็นเรื่องราวที่คาดเดาไม่ได้เพราะตัวละครแต่ละตัวจะต้องเลือกว่าจะเอาตัวรอดยังไงเพื่อให้มีชีวิตไปจนถึงรุ่งสางได้โดยไม่ตายเสียก่อน รายชื่อนักแสดงนำผู้ร่วมชะตากรรม เอลลา รูบิน รับบท โคลเวอร์, ไมเคิล ซิมิโน รับบท แม็กซ์, โอเดสซา เอไซออน รับบท นินา, ยูจียอง รับบท เมแกน, เบลมอนต์ กาเมลิ รับบท อาเบอ, เมียอา มิตเชลล์ รับบท เมลานี,

รีวิว The Life List รายการชีวิต (2025)

เรื่องราวของ อเล็กซ์ หญิงสาวที่ยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันในวัยผู้ใหญ่ เมื่อแม่ที่สนิทกับเธอที่สุดได้จากไปแบบไม่มีวันกลับ แม่ได้มอบพินัยกรรมเป็นลิสต์รายการที่อเล็กซ์เคยเขียนเอาไว้ตอนกำลังจะเป็นวัยรุ่น ทำให้แม่ได้สั่งเสียเป็นครั้งสุดท้ายที่จะให้ลูกสาวได้ลองทำตามรายการชีวิตที่เคยลิสต์เอาไว้ ที่นั่นทำให้เธอเผชิญหน้ากับความสุขและความทุกข์ พร้อมกับได้ค้นพบความลับของครอบครัว รวมทั้งอีกแง่มุมของความรัก และรู้จักตัวตนที่แท้ตริงของตัวเองไปพร้อม ๆ กัน นี่คือผลงานการกำกับและเขียนบทของ “อดัม บรูคส์” ที่นับว่าเป็นการกลับมาสร้างหนังอีกครั้งในรอบเกือบ 20 ปีของเขา นับตั้งแต่หนังรัก Definitely, Maybe ที่ดูเหมือนว่าจะเป็นคอนเทนท์ที่เข้ามือและเข้าทางเป็นอย่างดี ถึงแม้ว่าโครงสร้างต่าง ๆ จะไม่มีอะไรแปลกใหม่อะไร เป็นไปตามสูตรสำเร็จหนังชีวิตและการค้นหาชีวิตที่มันจะแฝงด้วยคำคมและมีมต่าง ๆ ที่น่าจะถูกนำมากักเก็บเป็นประโยคดี ๆ ในภายหลัง The Life List ก็คงจะเป็นเหมือนหนังที่เข้ามาช่วยเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายไปของผู้ใหญ่ที่เติบโตมาด้วยความโหยหาความสำเร็จที่ยังไม่เฉียดเข้าใกล้ด้วยซ้ำ อาจจะเป็นพล็อตสูตรเดิมและไม่ได้มีอะไรที่จัดจ้านโดดเด่นเท่าไหร่ แต่อย่างน้อย ๆ คีย์หลักของหนังเรื่องนี้ก็คือการสะท้อนมุมมองชีวิตที่เป็นแรงพลังดันที่ทำให้เกิดเป็นสิ่งใหม่ ๆ ในมุมมองที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน เหมือนกับความกล้าที่จะก้าวออกไปสัมผัสสถานที่ใหม่ ๆ นั่นเอง

รีวิว The Twister: Caught in the Storm (2025)

สารคดีที่เล่าเรื่องจากฟุตเทจของหลายคนที่ผ่านเหตุพายุทอร์นาโดระดับใหญ่ EF-5 ความเร็วลมถึง 200 ไมล์ต่อชั่วโมง ในวันที่ 22 พฤษภาคม 2011 ที่เมืองจอปลิน รัฐมิสซูรี่ สหรัฐอเมริกา เรื่องราวนี้มีความน่าสนใจอย่างมาก โดยเฉพาะการโฆษณาว่ามีฟุตเทจจากใจกลางพายุ ซึ่งผู้ชมที่เคยดูภาพยนตร์ทวิสเตอร์คงจำได้ว่านั่นเป็นตอนจบของภาคแรกที่ตัวละครได้เข้าไปอยู่ในตาพายุ และทุกอย่างดูน่าทึ่งมหัศจรรย์อย่างยิ่ง สารคดีเรื่องนี้พยายามอ้างอิงถึงหนังทวิสเตอร์โดยตรงตั้งแต่ชื่อเรื่อง รวมถึงนำเสนอกลุ่มนักล่าพายุที่ออกมาเล่าเหตุการณ์ โดยบอกว่าพวกเขาชื่นชอบภาพยนตร์เรื่องนี้มากและเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้พวกเขาไปเผชิญกับพายุลูกนี้ รีวิวหนังใหม่ The Twister: Caught in the Storm สารคดีพยายามนำเสนอในแนว “การเติบโตสู่วัยผู้ใหญ่” ของวัยรุ่น โดยให้ตัวละครในเรื่องเป็นช่วงวัยรุ่นเกือบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่จบการศึกษาในวันเกิดเหตุพอดีแล้วต้องเผชิญกับพายุทอร์นาโดที่พัดถล่ม หรือเด็กที่ใฝ่ฝันอยากเป็นนักพยากรณ์อากาศ แต่เรื่องราวที่นำเสนอกลับเรียบง่ายและไม่มีพลัง ไม่สามารถสร้างความประทับใจให้ผู้ชมได้ แม้ว่าผู้สร้างจะพยายามสร้างจุดสนใจด้วยเรื่องของผู้รอดชีวิตคนสุดท้ายที่ติดเชื้อราจากพายุจนเนื้อถูกกัดกร่อนเกือบเสียชีวิต แต่รอดมาได้อย่างปาฏิหาริย์ แต่สารคดีกลับเล่าเรื่องนี้แบบผ่านๆ สั้นๆ ไม่ได้พัฒนาให้เป็นจุดสุดยอดของเรื่อง นอกจากทำให้รู้สึกว่าเป็นเรื่องแปลกที่น่าสนใจเท่านั้น จนทำให้สารคดีนี้ดูเหมือนถูกสร้างขึ้นอย่างลวกๆ เพื่อเกาะกระแสภาพยนตร์ ซึ่งที่จริงแล้วภาพยนตร์ดังกล่าวก็ฉายไปก่อนหน้านั้นนานแล้ว และยังไม่ทันเวลาที่หนังจะเข้าฉายด้วยซ้ำ